พระพุทธรูปปางมารวิชัย เป็นหนึ่งในผลงานศิลปะที่โดดเด่นและน่าสนใจจากศิลปินสมัยทวารวดี ซึ่งมีชื่อว่า “Udorn” (อุดร)
พระพุทธรูปปางมารวิชัยนี้ ถือเป็นตัวอย่างของศิลปะสกุลย์ทวารวดี ที่แสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญและความสามารถในการสร้างสรรค์งานศิลป์ที่งดงามสมจริง พระพุทธรูปถูกแกะสลักจากหินทรายสีแดง มีขนาดสูงประมาณ 1.5 เมตร ปางมารวิชัย เป็นปางที่แสดงให้เห็นถึงพระพุทธองค์ทรงข่มมาร ซึ่งเป็นการทดสอบความสามารถและสติปัญญาของพระองค์
ลักษณะของพระพุทธรูปปางนี้มีจุดเด่นหลายประการ อาทิ:
- ** मुद्रा:** พระหัตถ์ขวาประนมอยู่ในท่า " अभย मुद्रा " (อิริยาบถที่แสดงถึงความเกษม)
- ** มหาเศรณี:** ท่านั่งในท่ามหาเศรณี โดยพระบาทซ้อนกันบนอาสนะ
- ** โครงหน้า:** พระพักตร์ของพระพุทธรูปมีลักษณะสง่างามและอ่อนโยน
การแกะสลักรายละเอียดของพระพุทธรูปปางมารวิชัยนี้แสดงถึงฝีมือช่างศิลป์สมัยทวารวดี ที่สามารถถ่ายทอดความหมายทางศาสนาไปยังผู้ที่พบเห็นได้อย่างชัดเจน
การวิเคราะห์สัญลักษณ์และความหมาย
พระพุทธรูปปางมารวิชัยนี้ไม่ได้มีเพียงความสวยงามเท่านั้น แต่ยังมีความหมายทางศาสนาที่ลึกซึ้ง
- การข่มมาร: แสดงถึงชัยชนะของพระพุทธองค์เหนือกิเลสและอุปสรรคทั้งปวง
- ท่ามหาเศรณี: สื่อถึงความสงบสุขและความมั่นคง
- ** अभय मुद्रा:** แสดงถึงความเมตตาและความปลอดภัย
นอกจากนี้ รายละเอียดอื่นๆ เช่น ริ้วรอยบนพระพักตร์, ลักษณะของพระเกศา และเครื่องประดับที่สวมใส่อย่าง " วิมาน " (หลังคาพระวิหาร) ก็ล้วนแต่เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความศักดิ์สิทธิ์และอำนาจของพระพุทธองค์
เทคนิคการแกะสลัก
ช่างศิลปสมัยทวารวดีได้ใช้วิธีการแกะสลักแบบ “Shallow Relief” (แกะสลักตื้น) ซึ่งเป็นเทคนิคที่ช่วยให้รายละเอียดของพระพุทธรูปดูโดดเด่นขึ้นมา
เทคนิคแกะสลัก | ลักษณะ |
---|---|
Shallow Relief | แกะสลักแบบตื้น |
Deep Relief | แกะสลักแบบลึก |
การใช้เทคนิค Shallow Relief ทำให้พระพุทธรูปดูมีมิติและความสมจริงมากขึ้น
ความสำคัญของพระพุทธรูปปางมารวิชัย
พระพุทธรูปปางมารวิชัยจากศิลปิน Udorn เป็นผลงานศิลปะที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์และศึกษา เพราะเป็นตัวแทนของศาสนาพุทธ และวัฒนธรรมไทยในสมัยทวารวดี
นอกจากนี้ ยังสะท้อนถึงความสามารถและความเชี่ยวชาญของช่างศิลปสมัยนั้น ซึ่งได้ถ่ายทอดความงดงามและความหมายทางศาสนาไว้ในผลงาน
การศึกษาพระพุทธรูปปางมารวิชัย จะช่วยให้เราเข้าใจถึงประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรมไทยในอดีตได้อย่างลึกซึ้ง