หากเราจะพูดถึงศิลปะของเกาะชวาในศตวรรษที่ 7 เราคงพลาดไม่ได้ที่จะกล่าวถึงศิลปินผู้ยิ่งใหญ่จากแคว้นเช็ดดี (Srivijaya) อย่าง “Dharmasetu” ซึ่งเป็นหนึ่งในปรมาจารย์ที่สร้างสรรค์งานศิลปะที่มีอิทธิพลอย่างมากต่ออารยธรรมของภูมิภาคนี้
“Kalpataru” ซึ่งแปลว่า “ต้นไม้แห่งความสมหวัง” เป็นผลงานชิ้นเอกที่ Dharmasetu สร้างขึ้นจากหินทรายแดงขนาดมหึมา ตัวรูปปั้นมีความสูงประมาณ 3 เมตร และหนักกว่า 10 ตัน เป็นภาพสัญลักษณ์ของต้นโพธิ์ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวพุทธนับถือ
ในงานชิ้นนี้ Dharmasetu ได้แสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญอันยอดเยี่ยมในด้านการแกะสลักหินทราย รายละเอียดของใบไม้ ดอกไม้ และรากของต้น Kalpataru นั้นมีความอ่อนหวานและมีชีวิตชีวาอย่างน่าเหลือเชื่อ
-
โครงสร้าง รูปปั้น “Kalpataru” มีลักษณะคล้ายต้นโพธิ์ที่งอกงามขึ้นมาจากพื้นดิน ลำต้นของมันโค้งไปตามธรรมชาติ และแผ่กิ่งก้านสาขารอบ ๆ อย่างสง่างาม ใบไม้แต่ละใบถูกแกะสลักอย่างประณีต และมีเส้นสายที่ชัดเจน รากของต้น Kalpataru ที่พันรอบตัวก็แสดงถึงความมั่นคงและเชื่อมโยงไปยังโลก
-
รายละเอียด
Dharmasetu ใส่ใจในรายละเอียดที่เล็กที่สุดของงาน ใบไม้แต่ละใบมีความโค้งงอตามธรรมชาติ และมีเส้น прожиที่คมชัด
ดอกไม้ที่บานสะพรั่งบนกิ่งก้านก็ถูกแกะสลักอย่างประณีตและมีสีสันหลากหลาย
รากของต้น Kalpataru ที่พันรอบตัวก็แสดงถึงความมั่นคงและเชื่อมโยงไปยังโลก
รายละเอียด | บรรยาย |
---|---|
ลำต้น | โค้งงอตามธรรมชาติ |
กิ่งก้าน | แผ่กว้างอย่างสง่างาม |
ใบไม้ | โค้งงอตามธรรมชาติ มีเส้น прожиที่คมชัด |
ดอกไม้ | บานสะพรั่งอย่างรื่นรมย์ มีสีสันหลากหลาย |
ราก | พันรอบตัวแสดงถึงความมั่นคงและเชื่อมโยงไปยังโลก |
- สัญลักษณ์ นอกจากความงามทางศิลปะแล้ว “Kalpataru” ยังมีสัญลักษณ์ที่ลึกซึ้งอีกด้วย ต้นโพธิ์เป็นสัญลักษณ์ของความตรัสรู้และการหลุดพ้น ในศาสนาพุทธ ต้นโพธิ์ถูกมองว่าเป็นต้นไม้แห่งความสว่างไสว
รูปปั้น “Kalpataru” จึงไม่ใช่เพียงแค่ชิ้นงานศิลปะที่สวยงามเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวแทนของความศรัทธาและความปรารถนาในการตรัสรู้ของชาวพุทธในยุคสมัยนั้น
“Kalpataru” – นี่คือผลงานศิลปะที่ยิ่งใหญ่เกินคำบรรยาย
การที่ Dharmasetu สามารถสร้างสรรค์ “Kalpataru” ออกมาได้ เป็นพรจากเทวดาอย่างแท้จริง ความงามและความหมายลึกซึ้งของรูปปั้นนี้ทำให้มันกลายเป็นหนึ่งในผลงานชิ้นเอกของศิลปะขอมโบราณ